ฮิวโม่-เอฟ65
สารอินทรีย์ปรับปรุงสภาพดิน
คุณสมบัติ
ฮิวโม่-เอฟ65 เป็นสารอินทรีย์จากธรรมชาติที่ถูกย่อยสลายจนมีขนาดโมเลกุลเล็กมาก สามารถนำมาใช้ปรับปรุงสภาพดินที่มีการเพาะปลูกและใช้ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องยาวนาน ดินเสื่อมโทรม ดินที่ขาดอินทรียวัตถุ ฮิวโม่-เอฟ65 ประกอบด้วย ฮิวมิค แอซิด และ ฟูลวิค แอซิด คุณภาพดี ความเข้มข้นสูง ละลายน้ำได้ดี สามารถปรับปรุงดินได้ทั้งทางโครงสร้างดิน (physical) และทางเคมี (chemical) ในดิน ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ปลดปล่อยปุ๋ยที่ค้างในดิน ทำให้ดินร่วนซุยอุ้มน้ำ รากเดินดี เพิ่มออกซิเจนในดิน ทำให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เจริญเติบโตได้ดี ส่งเสริมให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรง เพิ่มผลผลิต
Contains:
Humic acid 60%, Fulvic acid 5%
Humic acid 60%, Fulvic acid 5%
คุณประโยชน์
- ปรับปรุงสภาพดินให้โปร่ง ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี เหมาะแก่การเพาะปลูก- รักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างของดิน ทำให้ดินไม่เสื่อมง่ายจากการใช้ปุ๋ย และสารเคมีสังเคราะห์ต่างๆ
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน ทำให้พืชได้รับสารอาหารตามธรรมชาติได้ดี
- ช่วยทำให้สารอาหารที่อยู่ในดินอยู่ในสภาพที่ถูกดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารอาหารเสริม
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชสามารถทนทานต่อสภาพเครียดได้ดี
- ช่วยกำจัดสารพิษ โลหะหนักต่างๆในยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช หรือจากสิ่งแวดล้อมที่เสียออกจากพืชได้ดี
- ช่วยการขนส่ง สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมน และเอ็นไซม์ต่างๆ ในพืช ให้ไปสู่จุดที่พืชต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พืชโตเร็ว แข็งแรง มีคุณภาพ
อัตราและวิธีการใช้
ใช้ ฮิวโม่-เอฟ65 5-10 กรัม (1-2 ช้อนชา) ละลายในน้ำ 20 ลิตร ( 1 ปี๊ป) รดน้ำให้กับพืชหรือฉีดพ่นทางใบทุกเดือน พืชผัก พืชไร่ และ สวนไม้ประดับ ควรแบ่งใช้ 300-500 กรัมต่อไร่ ต่อการเพาะปลูกในแต่ละรอบ พืชผลไม้ ควรแบ่งใช้ 700-1000 กรัมต่อไร่ ต่อการให้ผลผลิตในแต่ละรอบ สามารถให้โดยตรงหรือใช้ผสมกับปุ๋ยได้ทั้งปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยผงได้ และสามารถให้ร่วมกับสารอาหารเสริมพืชต่างๆ และยาฆ่าแมลงได้ในระบบปลูกแบบไร้ดิน (Hydroponic system) ใช้ความเข้มข้น 100-200 ppm บางกรณีอาจใช้ความเข้มข้นสูง 500 ppm
ฮิวโม่-เอฟ65 สามารถใช้ แช่เมล็ดก่อนนำไปเพาะปลูก โดยใช้ 5-10 กรัม ในน้ำ 20 ลิตรแช่เมล็ด 12-24 ชั่วโมงก่อนนำไปเพาะปลูก


สารกลุ่มฮิวมิค (Humic Substances)
สารกลุ่มฮิวมิค(Humic substances) เป็นอินทรีย์วัตถุที่มีอยู่ในธรรมชาติเกิดขึ้นจากซากพืชซากสัตว์ที่ตายทับถมแล้วเกิดการย่อยสลายเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาด้วยความร้อน แสงแดด แรงกดดันของบรรยากาศ และจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งจะค่อยๆเปลี่ยนสภาพซากพืชสัตว์เหล่านั้นไปเป็นสารกลุ่มฮิวมิคที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลงและคุณสมบัติเปลี่ยนไปดังนี้
ฮิวมิน (Humins) มีขนาดโมเลกุลใหญ่ ให้ประโยชน์ปรับปรุงโครงสร้างดินทางด้านกายภาพ ไม่ละลายน้ำ ไม่ให้ประโยชน์ปรับปรุงดินทางด้านเคมี
ฮิวมิค แอซิด (Humic acids) มีขนาดโมเลกุลเล็กลงมาก เริ่มละลายน้ำได้ในสภาพเป็นด่าง มีโครงสร้างที่ทำปฏิกิริยาเคมีได้มากขึ้น และมีออกซิเจนในโมเลกุลมากขึ้น ทำให้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงทั้งทางด้านโครงสร้างดินและทางด้านปฏิกิริยาเคมีในดิน

ฟูลวิค แอซิด (Fulvic acids) มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด มีออกซิเจนต่อโมเลกุลมากที่สุด ละลายน้ำได้ดีในทุกสภาพ ทำให้สามารถปรับปรุงสภาพดินทางด้านเคมีได้ดี ช่วยปลดปล่อยและรักษาสมดุลแร่ธาตุในดิน และยังสามารถซึมผ่านเข้าไปในพืชช่วยรักษาสมดุลของแร่ธาตุและอาหารในพืช

ประโยชน์ของ ฮิวมิค แอซิด (Humic Acid)
2. ช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดด่างในดินให้เหมาะสม ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อใช้ปุ๋ยเคมี
3. กระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน
4. เร่งการเจริญเติบโตเพิ่มผลผลิต โดยทำให้แร่ธาตุในดินอยู่ในรูปที่ดูดซึมนำไปใช้ได้
5. เร่งการเจริญเติบโตของราก ลำต้น และใบ
6. ปรับปรุง สี ความแข็งแรง ภูมิต้านทาน และ การเก็บน้ำของพืชให้ดีขึ้น
7. กำจัดสารพิษในดิน โลหะหนักหรือเคมีตกค้าง โดยตรึงไว้ ไม่ให้ดูดซึมเข้าไปได้
8. เพิ่มความทนทานต่อสภาพเครียดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความร้อน ความแห้งแล้ง
ประโยชน์ของ ฟูลวิค แอซิด (Fulvic Acid)
2. ปรับเปลี่ยนปุ๋ยและสารอาหารที่ให้หรือที่มีอยู่ในดิน ให้อยู่ในรูปที่ปลดปล่อยและดูดซึมเข้าเซลล์ได้ง่าย พืชสามารถนำไปใช้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
3. ให้พลังงานและช่วยขนส่งปุ๋ย สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมน และเอ็นไซม์ต่างๆในพืชจากรากหรือใบ ไปยังจุดที่พืชต้องการได้อย่างรวดเร็ว
4. เพิ่มการดูดซึมของระบบราก และทางใบ โดยการกระตุ้นการทำงานของผนังเซลล์
5. ช่วยเร่งการทำงานของเอ็นไซม์และวิตามินในเซลล์พืช ซึ่งมีผลต่อขบวนการทางเคมีสำคัญๆของพืช เช่น ขบวนการสังเคราะห์แสง ขบวนการหายใจ เป็นต้น
6. เปลี่ยนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตให้เป็นการสะสมน้ำตาลที่ละลายน้ำได้ดีทำให้เพิ่มความดันในเซลล์ พืชสามารถทนทานต่อความแห้งแล้ง และความหนาวเย็นได้ดี
7. เพิ่มขบวนการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มจำนวน DNA และ RNA ในเซลล์ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืชและกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
8. ช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวและขยายตัวของเซลล์พืช
9. ช่วยจับและขับสารที่เป็นพิษ เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช ออกจากพืชได้ดี